วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ที่มาของวันพระ

เข้าวัดมาตั้งหลายปีแล้ว มีใครทราบบ้างว่าทำไมต้องมีวันพระด้วย? (ฮ่าว! แล้วมันเกี่ยวกับเณรไหมเนี่ย?)
  เริ่มแรกจริงๆ หลังจากพระพุทธเจ้าออกสอนธรรมะใหม่ๆนั้นยังไม่มีวันพระจ๊ะ พระองค์ก็สอนไปเรื่อยๆ ได้สาวกไปทีละมากบ้างน้อยบ้าง(ตกลงมากหรือน้อย!!) ท่านก็มาช่วยกันสอนธรรมะให้กว้างขวางออกไป พวกเราลองคิดดูนะว่าตอนนั้น โปรเจคเตอร์ที่จะฉายเพาเวอพ้อยท์ก็ไม่มี เครื่องขยายเสียงก็ไม่มี รถไฟสำหรับเดินทางไปโน้นไปนี่ก็ไม่มี..ปู๊นๆ ฯลฯลฯลฯ ดังนั้นการสอนธรรมะในอดีตจึงทำลำบาก (อย่าว่าแต่ตอนนั้นเลย ตอนนี้มีอุปกรณ์ทุกอย่างแล้วยังสอนธรรมะไม่ได้เลย ฮ่ะๆๆๆๆ ไม่ได้พูดเล่นนะ ดูสิมีใครรู้ธรรมะบ้าง??ปากดีนะเรา) ในอินเดียเขามีศาสนาเยอะมาก ศาสนาทั้งหลายล้วนมีการมาชุมนุมกันเป็นประจำ เช่นสัปดาห์ละครั้งบ้าง ปักษ์ละครั้งบ้าง (ปักษ์เป็นศัพท์เก่าไปหน่อยนะ มันแปลว่าครึ่งเดือน) เดือนละครั้งบ้าง.......ทายสิว่าเขามาชุมนุมกันทำไม? (จงเลือกคำตอบที่น่าจะผิดน้อยที่สุดเพียงข้อเดียว)
ก. เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
ข. เพื่อขับไล่เผด็จการแห่งชาติ
ค. เพื่อให้รัฐฯประกันราคาข้าวและยางพารา
ง. จะไปทราบหรอ? มาอ่านบอร์ดนะ ไม่ใช่เล่นเกมส์เศรษฐี!!!
เฉลยแล้วนะ....ไม่มีคำตอบอยู่ในนั้น เหตุผลหลักก็คือ มาประชุมเพื่อพูดหรือแถลงหลักการของศาสนา คำตอบนี้ต้องจำไว้เลย เราต้องไม่ลืมนะว่า ที่ไหนไม่มีการชุมนุมเพื่อพูดหลักการและความเชื่อของศาสนาตนเองอยู่เรื่อยๆ วันหนึ่งคนจะจำไม่ได้ว่าศาสนาตัวเองสอนเรื่องอะไรกันแน่... อีกอย่าง นอกจากจะได้ความรู้ทางศาสนาแล้ว การประชุมกันบ่อยจะทำให้เรามีกำลังใจในการทำความดีหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้นด้วย เผื่อยังไม่เข้าใจ....ก็คือว่า ถ้าไม่มีใครมาเตือนสติเราเลย เรามักปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์ (อย่าคิดลึกไปถึงขั้นเสียบริสุทธิ์นะ!!) แต่หมายถึงเราอยากทำอะไรก็ทำ เราอยากไปไหนก็ไป จนลืมนึกไปว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราควรทำ สิ่งไหนบ้างทำแล้วจะเกิดประโยชน์กับผู้อื่น เห็นไหม นี่คือประโยชน์ของการมาชุมนุมงัยจ๊ะ
  พระเจ้าพิมพิสาร (กษัตริย์มีชื่อเสียงสมัยนั้น) เห็นศาสนาทั้งหลายมาประชุมกันแล้วก็ย้อนนึกถึงศาสนาพุทธซึ่งไม่เคยได้มาชุมนุมกันเลย จึงเข้าไปหาพระพุทธเจ้าแล้วตรัสว่า “อยากให้ศาสนาพุทธมีการนัดชุมนุมกันบ้าง มิเช่นนั้น ยิ่งนานเข้าก็จะไม่มีคนรู้ธรรมะ จะเหลือแค่การเข้าวัดทำบุญกันเฉยๆ(เสียแต่เงิน อุ๊ย!หลุดปาก)” พระพุทธเจ้าจึงเห็นด้วยแล้วตั้งวันพระขึ้นมาตั้งแต่บัดนั้น (ถามหน่อย...ตั้งขึ้นเพื่ออะไร? ตอบ..เพื่อให้ชาวพุทธได้มาฟังธรรมะงัย) เพราะการมาฟังธรรมนี้แหละ วันพระจึงมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วันธรรมมัสสวนะ (ธรรมะ ก็แปลว่า ธรรมะ...สวนะ แปลว่า การฟัง) ชาวพุทธเราจึงรักษาประเพณีนั้นไว้ตลอดเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาฟังธรรม เข้าใจไหมหนู? (เข้าใจครับพี่แมว!)
อีกอย่างเคยสงสัยไหมว่าทำไมวันพระต้องตรงกับวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ ตลอดเลย วันเหล่านี้ขลังมากหรอ??? ไม่ได้ขลังอะไรหรอกจ๊ะ...เพราะพุทธศาสนาเรามีหลักของ อกาลิโก (ไม่จำกัดเวลา) คือเราจะทำดีวันไหนก็ดีทั้งนั้น ทำชั่ววันไหนก็ชั่วทั้งนั้น แต่เหตุที่ต้องให้วันพระตรงกับวันเหล่านี้เพราะมันเป็นวันที่พระจันทร์ยิ้มหวาม..คือมีแสงจันทร์งัย เพราะเมื่อก่อนเขายังไม่มีไฟฟ้าใช้ แล้ววันพระเนี่ยเขาฟังธรรมกันตอนเย็น คืออาจเสร็จพิธีราวหกโมงหรือหนึ่งทุ่ม ทีนี้ชาวบ้านจะเดินทางกลับก็ลำบากสิเพราะมันมืด(ไหนจะโจร เสือ จระเข้ หมีควายหรือคนโรคจิต!!)จึงต้องกำหนดโปรแกรมให้ตรงกับวันที่มีแสงจันทร์ การเดินทางจะได้สะดวกงัย...แค่นี้ก่อนดีกว่า พอจะทราบข้อมูลแล้วนะ เผื่อลูกถาม?  สรุปสั้นๆนะว่า
วันพระเป็นวันที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ชาวพุทธได้รวมตัวกันฟังธรรมะ เพื่อจะได้มีความรู้ที่ถูกต้อง เป็นคนมีเหตุมีผล รู้จักวิธีดำเนินชีวิตตามธรรม (จะได้ไม่เป็นคนเห็นแก่ตัวหรือตกเป็นเหยื่อคนใจดำชอบหลอกลวงทั้งหลาย) ดังนั้นสิ่งที่เราควรคำนึงถึงในวันพระคือ
  ๑. ไปในที่ที่สามารถให้ความรู้เราได้ หมายถึงเรื่องธรรมะนะไม่ใช่การเมือง สาธารณสุข โหราศาสตร์ หรือกฎหมาย(แล้วเรื่องเหล่านี้ไม่ดีตรงไหน? ดีจ๊ะ แต่เราจะไปหาที่ไหนก็ได้งัย เช่นไปราชประสงค์หรือราชดำเนินก็ได้ แต่วัดมีหน้าที่ให้ธรรมะโดยตรง)
  ๒. ให้สนใจการฟังธรรมมากกว่าการคิดแต่จะถวายถังเหลือง สะเดาะเคราะห์ รดน้ำมนต์ หรือบริจาคเงินเพื่อชื่อตนจะได้เข้าไปในไมโครโฟน...เพราะท่านจะพัฒนาชีวิตด้วยความรู้ของตัวเองได้และพึ่งตนเองได้ในที่สุด
  ๓. ตกลงวันนี้เกี่ยวกับเณรป่าว? ไม่เฉพาะแต่เณรเท่านั้น แต่เกี่ยวกับโยมทุกคนนั้นแหละที่จะต้องมาหาความรู้ (ทำบุญ) ด้วยการฟังธรรม เกี่ยวกับพระด้วยเพราะพระต้องเทศน์สอน เกี่ยวกับเณรด้วยเพราะเณรอยู่ใต้เบี้ยล่างพระ จะเรียกใช้งานตอนไหนก็ได้ ฮ่ะๆๆ (พูดเล่น เพราะเณรจะต้องให้ความรู้โยมเหมือนกัน ในฐานะที่กินข้าวเขางัย จำให้ดีนะให้ความรู้ ไม่ใช่เบอร์โทร!!!)
๔. นึกไม่ออกแล้ว เอาเป็นว่าแค่นี้ก็น่าจะพอ พูดมากไปเดี๋ยวโดนยุบพรรค ฮ่ะๆๆๆ โชคดีกับการทำบุญนะ ฉลาดขึ้นทุกๆคนครับ   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น